วันอาทิตย์ที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2554

สำนักสักยันต์อาจารย์เหน่ง อ่อนนุช: สำนักสักยันต์อาจารย์เหน่ง อ่อนนุช

สำนักสักยันต์อาจารย์เหน่ง อ่อนนุช: สำนักสักยันต์อาจารย์เหน่ง อ่อนนุช: สักยันต์ คำนี้เป็นที่รู้กันมานาน ไม่ สามารถระบุได้ว่าเกิดขึ้นมาตั้งแต่ยุคสมัยใด จาการสันนิฐานของคนสมัยก่อนคาดว่าน่าจะเกิดขึ้นตั้งแต่ ก่อ...

วันเสาร์ที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2554

สำนักสักยันต์อาจารย์เหน่ง อ่อนนุช


สักยันต์ คำนี้เป็นที่รู้กันมานาน  ไม่ สามารถระบุได้ว่าเกิดขึ้นมาตั้งแต่ยุคสมัยใด จาการสันนิฐานของคนสมัยก่อนคาดว่าน่าจะเกิดขึ้นตั้งแต่ ก่อนพุทธกาลสมัย ตั้งแต่ยุครามเกียรติ ซึ่งสันนิฐานจากลายบนผิวหนังของ  หนุมานสมุนเอกของพระรามซึ่งมีลักษณะเป็นลายลมซึ่งคล้ายลายสักยันต์ จึงสันนิฐานกันต่อเรื่อยมาว่าคือต้นกำเนิดของลายสักยันต์ วัฒนธรรมการสักยันต์ของไทย เริ่มมาพร้อมกับการสร้างภาษาเขียน โดยบทสวดหรือการจารึกพระธรรมจะใช้คำอ่านเป็นภาษบาลีในการจารบันทึกโดยใช้ตัว เขียนเป็นอักขระขอม-ไทยในการบันทึก จึงเป็นจุดเริ่มต้นของอักขระการสักยันต์ไทย สืบต่อกันมาจนปัจจุบัน
คนไทยสมัยโบราณต้องการความคงกระพันชาตรีไว้ทำศึกสงคราม เมตตามหาเสน่ห์ให้ผู้คนเชื่อถือหลงรักเอ็นดู  คน โบราณจึงต้องพกพาวัตถุมงคลต่างๆเช่นพระเครื่อง ผ้ายันต์ ตระกรุดเป็นต้น นอกจากนั้น อีกสิ่งที่สามารถทำได้คือให้มีสิ่งที่เป็นมงคลติดกับร่างกายของเราเลยนั้น คือ การสักยันต์ หรือการเอาคุณพระเข้าไว้กับตัว โดยลายยันต์ที่สักก็คือบทสวด คาถา คำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในแบบต่าง มาผูกเป็นลวดลายหรืออักขระตามสูตรของอาจารย์แต่ละท่านให้ออกมาในลักษณะต่างๆ ซึ่งส่งผลทางด้านพุทธคุณแตกต่างกันออกไปตามแต่ลายสักยันต์นั้นๆ  อาจารย์ สักยันต์สมัยก่อนแต่ละท่านก็มีการร่ำเรียนวิชาในสายของตนซึ่งได้รับการตกทอด สืบต่อกันมาเป็นรุ่นๆ ทั้งวิชาอาคม คาถา ลายสักยันต์ การสักยันต์ อ.เหน่ง  อ่อน นุช เป็นอาจารย์สักยันต์ที่ได้รับการสืบทอดวิชาการสักยันต์ไทยมาจากบรมครูที่ เชี่ยวชาญการสักยันต์ในยุคก่อน โดยอาจารย์เหน่งได้รับวิชาวิชาอาคมต่างๆมามากมายเช่น คาถาอาคม การลงนะหน้าทอง การสักยันต์ไทย เป็นต้น จึงถือได้ว่า อ.เหน่ง อ่อนนุช ถือเป็นอาจารย์สักยันต์ที่เป็นผู้สืบทอดวิชาการสักยันต์ไทย ได้เข้มขลังคนนึงของวงการสักยันต์ไทย โดยมีลูกศิษย์ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศต่างมาสักยันต์ไทย(thai tattoo,sakyant)กับอาจารย์เหน่ง กันอย่างมากมาย  เรียกได้ว่าถ้าพูดถึงการสักยันต์ไทย ต้องมีชื่อของ อ.เหน่ง อ่อนนุช อยู่ด้วยเสมอ
การ สักยันต์ไทย(thai tattoo,sakyant)นั้น ตั้งแต่สมัยโบราณจะใช้เหล็กปลายแหลมฝ่าซีกหรือนำเหล็กฝ่าซีกมาประกบกันลง คาถาอาคม บางอาจารย์ใช้ตะปูตอกโลงผีก็มี เหล็กสักยันต์จะจุ่มกับน้ำหมึกที่ผ่านกรรมวิธีการเคี้ยวผสมว่านต่างๆลงคาถา ตามสูตรของอาจารย์แต่ละท่าน เรียกได้ว่า อุปกรณ์หรือสิ่งที่ใช้สักยันต์ มีความศักดิ์สิทธิ์ในทุกขั้นตอนการสร้างขึ้น การสักยันต์นั้นอาจารย์ที่สักยันต์ ก็ต้องบริกรรมคาถาไปตลอดเวลาที่สักยันต์ให้กับลูกศิษย์เพื่อให้คาถาอาคมนั้น ถูกถ่ายทอดจากอาจารย์ผู้ทำการสักยันต์ลงไปยังบนผิวหนังลูกศิษย์หรือผู้ถูก สักยันต์ ผ่านเข็มสักยันต์ลงบนอักขระ ทีละตัวๆ ไปจนเสร็จ เพื่อความเข้มขลังในอักขระที่สักยันต์ ที่สำนักสักยันต์อาจารย์เหน่งนั้น  เข็ม ที่ใช้สักยันต์อาจารย์เหน่งจะทำขึ้นมาด้วยตัวเองทุกเล่ม โดยสร้างตามสูตรที่ได้เรียนมาและลงอักขระคาถากำกับทุกเล่ม ส่วนน้ำหมึกที่ใช้สักยันต์ก็ผ่านการเคี้ยวและผสมว่านมงคล108ชนิดพร้อม บริกรรมคาถาระหว่างการเคี้ยวน้ำหมึก  การสักยันต์นั้นอาจารย์เหน่ง  จะ สักยันต์ให้ลูกศิษย์ด้วยตัวเองทุกลายยันต์เพื่อให้ลูกศิษย์ได้รับพลังและ ความศักดิ์สิทธิ์นั้นไปอยู่กับตัวได้โดยตรงระหว่างอาจารย์ถึงลูกศิษย์ การสักยันต์นั้นอาจารย์เหน่ง จะบริกรรมคาถาเรียกจิตเรียกนามเรียกสูตรคาถาหัวใจของรูปภาพและลายยันต์ต่างๆ ตามแต่ละลายที่สัก  ผ่านอาจารย์เหน่งสู่เข็มสักยันต์และถ่ายทอดลงสู่ผิวหนังลูกศิษย์ทุกคน ถึงขนาดลูกศิษย์บางคนถึงขั้นของขึ้นหรือออกอาการตามแบบลายยันต์ที่สักเลยก็ มีให้เห็นบ่อยครั้ง  เมื่อสักยันต์เสร็จอาจารย์เหน่ง จะปลุกลายยันต์ หนุนธาตุ และลงอาคม ให้กับลูกศิษย์อีกครั้ง โดยการให้ศิษย์นั่งภาวนาคาถาที่อาจารย์จะมอบให้ก่อนสักไปตลอดเวลา ศิษย์บางคนก็ของขึ้นเพื่อเคารพบูชาครู โดยออกอาการแปลกๆตามรอยสัก เช่น สักยันต์เสือ ก็จะคำรามเหมือนเสือ สักยันต์หนุมานก็จะขึ้นเป็นหนุมาน บางคนดูเหมือนจะผอมแห้งแรงน้อยแต่เมื่อของขึ้นเรียกได้ว่า ต้องใช้คนสี่ห้าคนช่วยจับถึงจะสงบลงได้  นับเป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงความขลังในลายยันต์นั้นๆด้วย  
การสักยันต์มีข้อห้ามต่างๆมากมายตามแต่ละสำนักจะให้ลูกศิษย์ยึดปฎิบัติกัน  สำนัก สักยันต์อาจารย์เหน่ง ก็มีข้อปฎิบัติยึดตามข้อห้ามของผู้สักยันต์สมัยโบราณ จุดประสงค์เพื่อให้เกิดความขลังในลายสักยันต์นั้นๆและประกอบกรรมดีอยู่ใน ศีลธรรมที่ดีงามโดยข้อห้าม หลักที่สำนักสักยันต์อาจารย์เหน่งยึดจากข้อห้ามทีมีมาตั้งแต่โบราณ
ให้ ลูกศิษย์ที่รับการสักยันต์ทุกคนยึดถือหรือปฎิบัติกันคือ ห้ามด่าว่าพ่อแม่ครูอาจารย์ใคร เพราะพ่อแม่ครูอาจารย์ถือเป็นสิ่งที่สูงสุด ที่ควรยกไว้เหนือหัว อาจารย์เหน่งจึงถือว่าข้อนี้มีความสำคัญมากต่อลูกศิษย์ที่มาสักยันต์ที่ สำนักสักยันต์แห่งนี้ ข้อ ที่สองคือห้ามกินฟักแฟงน้ำเต้า มะเฟือง เพราะเหตุผลที่ว่าของเหล่านี้จะล้างคุณสมบัติของว่านที่ผสมในหมึกที่ทำการ สักยันต์หรือน้ำมันที่ใช้สักยันต์ ข้อสามคือห้ามรับทานสัตว์เลื้อยคลานทุกชนิด ข้อสี่ห้ามผิดลูกผิดเมียใคร จุดประสงค์คือไม่ให้ผิดศีลและไม่ให้ลูกศิษย์ที่เข้ามาฟากตัวสักยันต์ที่ สำนักสักยันต์อาจารย์เหน่ง  ไปทำในสิ่งไม่ดีไม่งามหรือให้อยู่ในครรลองครองธรรมนั้นเอง  ข้อ ห้ามหรือข้อปฎิบัตินั้นอาจารย์เหน่งจะพร่ำสอนและเตือนลูกศิษย์อยู่เสมอให้ เป็นคนดี คิดดี ทำดี อยู่เสมอแล้วลายยันต์และสิ่งศักดิ์สิทธิ์นั้นจะคุ้มครอง ถ้าสักยันต์ไปแล้วไม่ปฎิบัติไม่ทำความดี ต่อให้สักยันต์ดียังไงก็ช่วยไม่ได้   ถ้าหมั่นปฎิบัติ ทำความดี หมั่นสวดมนต์ รับรองเลยว่าลายสักยันต์ อ.เหน่ง อ่อนนุช จะส่งผลให้เห็นอย่างที่คุณคาดไม่ถึงอย่างแน่นอน ....
                 การสักยันต์ เป็นความเชื่ออย่างหนึ่งของมนุษย์มานานแล้ว เราควรร่วมอนุรักษ์การสักยันต์ของไทยไม่ให้สูญหายไป โดยผู้ที่ชอบสักยันต์ในสมัยนี้จะมีเหตุผล คือ สักยันต์เพื่อลงอาคมขลัง ลงเลขยันต์ต่างๆที่เป็นมงคล สักยันต์เพื่อเกิดปาฏิหารย์ ยิง-ฟัน-แทงไม่เข้า หรือแสดงอิทธิฤทธิ์ต่างๆ เช่นต้องการสักยันต์ให้ช่วยด้านโชคลาภ  สักยันต์เมตตามหานิยม  สักยันต์เสน่ห์ สักยันต์หนุนดวง สักยันต์ค้าขาย ฯลฯ มุมมองของคนที่สักยันต์ในสมัยนี้เปลี่ยนไปมาก เพราะผู้หญิงหรือแม้แต่คนมีเงินก็นิยมสักยันต์กันอย่างแพร่หลายมาก โดยนิยมสักยันต์กันทั้งแบบหมึกและสักยันต์แบบน้ำมัน ขอเชิญร่วมพูดคุยและเข้ามาสัมผัสในศาสตร์แห่งการสักยันต์หรือชมลายสักยันต์ สวยๆที่หาดูยาก ได้ที่นี่เลย